ไส้ติ่ง เอาไว้หรือตัดออกดี ?

ไส้ติ่งคืออะไร ? ต้องเก็บไว้หรือตัดออก ?
ไส้ติ่งคืออะไร ?
ไส้ติ่ง จะมีลักษณะเป็นท่อตันที่แยกออกมาจากลำไส้ใหญ่ส่วนต้น โดยจะอยู่บริเวณท้องน้อยทางด้านขวา ซึ่งดูเหมือนไม่มีปัญหาถ้าหากไส้ติ่งไม่เกิดอาการอักเสบขึ้นมา
ไส้ติ่งอักเสบมาจากสาเหตุใด ?
ภาวะการอักเสบไส้ติ่ง เกิดจากการอุดตันภายในไส้ติ่ง สิ่งที่ไปอุดตัน อาจเป็นได้ทั้งเศษอุจจาระขนาดเล็ก สิ่งแปลกปลอม ก้อนเนื้องอก หนอนพยาธิ เข้าไปอุดตัน ทำให้ไส้ติ่งบวมและอักเสบ หรือบางครั้งอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนที่ส่งผลต่อต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกายและบริเวณไส้ติ่ง เกิดปฏิกิริยาด้วยการขยายตัวขึ้นจนไปปิดกั้นไส้ติ่ง ทำให้แรงดันในไส้ติ่งสูงขึ้น เกิดการอักเสบในที่สุด หากปล่อยไว้จะส่งผลกระทบทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
อาการของไส้ติ่งอักเสบ
เริ่มแรกด้วยอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม เบื่ออาหารต่อมาอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งตำแหน่งที่ปวดนั้นไม่แน่นอนและอาจปวดได้หลายแบบ แตกต่างกันไปครับ ซึ่งหากมีอาการปวดมากกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไปควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยด่วนครับ
การตรวจไส้ติ่ง
แพทย์จะซักประวัติผู้ป่วยตรวจร่างกาย ตรวจสัญญาณชีพ จากนั้นตรวจเม็ดเลือด หากมีปริมาณเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ จะบ่งบอกถึงอาการติดเชื้ออักเสบและมีการตรวจปัสสาวะหาเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวเพื่อแยกโรคอื่น ๆ รวมทั้งดูภาวะสมดุลของน้ำในร่างกาย อาจมีการตรวจเอกซเรย์ ซึ่งอาจจะใช้เป็นการ
- ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT – Scan
- ตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้องด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound Upper Abdomen)
- ตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อแยกโรคอื่น ๆ หรือประกอบการวินิจฉัยโรคและดูภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ร่วมด้วยครับ
การรักษาไส้ติ่งอักเสบ
การรักษาไส้ติ่งอักเสบนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดออกไปครับ เพราะการทานยาไม่ช่วยให้ไส้ติ่งหายจากการอักเสบและกลับมาเป็นปกติได้
เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค “ไส้ติ่งอักเสบ” ควรรีบพบแพทย์และรักษาด้วยการผ่าตัดครับ ไม่ควรเก็บไว้ เพราะอาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้